เรื่องน่ารู้ รู้จักมด
1. ชีววิทยาของมด 1.1 วงจรชีวิต มดเป็นแมลงที่มีการเจริญเติบโตแบบสมบูรณ์ (complete metamorphosis) ในวงจรชีวิตประกอบด้วยไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย1.2 ลักษณะที่สำคัญ มดมีลักษณะเหมือนกับแมลงกลุ่มอื่น ๆ คือสามารถแบ่งลำตัวออกได้เป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนหั
1. ชีววิทยาของมด
1.1 วงจรชีวิต
มดเป็นแมลงที่มีการเจริญเติบโตแบบสมบูรณ์ (complete metamorphosis) ในวงจรชีวิตประกอบด้วยไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย1.2 ลักษณะที่สำคัญ
มดมีลักษณะเหมือนกับแมลงกลุ่มอื่น ๆ คือสามารถแบ่งลำตัวออกได้เป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง แต่ละส่วนจะมีอวัยวะหรือลักษณะที่สำคัญต่าง ๆ ปรากฎอยู่ลักษณะเหล่านี้จะแตกต่างกันไปในมดแต่ละกลุ่ม ลักษณะของมดแตกต่งจากแมลงชนิดอื่น คือ จะมีหนวดหักแบบข้อศอก (geniculate) แบ่งออกเป็นส่วน scape และ funicle ในเพศเมียจำนวนปล้องหนวดจะมี 4-12 ปล้อง ส่วนเพศผู้มี 9 ปล้อง ปากเป็นแบบกัดกิน มีฟันเรียกว่า mandible ท้องปล้องที่ 1 จะรวมกับอกปล้องที่ 3 เรียกว่า propodeum ท้องปล้องที่ 2 หรือ 3 มีลักษณะเป็นก้านเรียกว่า abdomen pedicel ซึ่งอาจจะมีปุ่มหรือไม่มีก็ได้ ส่วนท้องปล้องที่เหลือรวมเรียกว่า gaster มดเพศเมียบางชนิดจะมีเหล็กในยื่นออกมาให้เห็นจากปลายของส่วนท้อง มดจะมีตารวมขนากใหญ่ 1 คู่ (compound eye) บางชนิดมีตาเดี่ยว (ocelli) โดยทั่วไปจะมี 3 ตาอยู่เหนือระหว่างตารวม ตาเดี่ยวจะไม่ได้ทำหน้าที่ในการรับภาพ
เนื่องจากมดเป็นแมลงสังคม สมาชิกที่อยู่ในรังจะมีการแบ่งชั้นวรรณะแยกออกให้เห็นชัดเจน ประกอบด้วย
1.2.1 มดแม่รัง ลักษณะทั่วไป คือ มีขนาดใหญ่กว่ามดตัวอื่น ๆ ที่อยู่ในรัง มีปีกอกหนา ท้องใหญ่ และมักมีตาเดี่ยว สามารถสืบพันธุ์ได้ ทำหน้าที่ในการวางไข่และสร้างรัง
1.2.2 มดเพศผู้ โดยทั่วไปจะมีปีก ส่วนอกหนาแต่ไม่เท่าของมดแม่รัง มีหน้าที่ผสมพันธุ์ จะพบเป็นจำนวนน้อยกว่ามดงานในแต่ละรัง
1.2.3 มดงาน เป็นมดเพศเมียที่เป็นหมัน ไม่มีปีก ไม่มีตาเดี่ยว เป็นมดที่ออกหาอาหาร จะพบอยู่เสมอภายนอกรัง นอกจากหาอาหารแล้วมดงานยังมีหน้าที่ในการสร้างรัง รักษารัง ดูแลตัวอ่อนและราชินีและป้องกันรังด้วย มดงานบางชนิดสามารถแบ่งออกเป็น มดงานที่มีรูปร่างแบบเดียว (monomorphic form) มดงานที่มีรูปร่าง 2 รูปแบบ (dimorphic form : major worker; minor worker) และมดงานที่มีรูปร่างหลายแบบ (polymorphic form)
1.3 พฤติกรรม
มดเป็นแมลงที่มีวิวัฒนาการสูง กำเนิดมาช้านาน เมื่อศึกษาจาก fossil นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามดมีกำเนิดเมื่อ 50 ล้านปีมาแล้ว มดมีมากมายหลายชนิดแพร่กระจายอยู่ทั่วไปในเขตต่าง ๆ ยกเว้นแถบขั้วโลก มดมีพฤติกรรมที่น่าสนใจหลาย ๆ ด้าน ได้แก่
1.3.1 พฤติกรรมการผสมพันธุ์และสร้างรัง เมื่อมีประชากรภายในรังหนาแน่นมากและต้องการขยายรัง สมาชิกในรังที่จะทำหน้าที่ผสมพันธุ์จะบินออกมาจากรังเดิมจับคู่กับมดจากรังอื่น โดยมดงานจะขุดรูให้เป็นทางออกของแม่รังตัวใหม่ มดที่มีวิวัฒนาการสูงจะจับคู่และผสมพันธุ์บนที่สูง เช่น บนต้นไม้ ส่วนมดที่มีวิวัฒนาการต่ำจะผสมพันธุ์บนพื้นดิน หลังจากนั้นราชินีจะหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการสร้างรังซึ่งจะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ชนิดของมดแล้วเริ่มต้นสร้างรังใหม่ เมื่อพบพื้นที่ที่เหมาะสมแล้วราชินีจะสลัดปีกออกและวางไข่ การวางไข่ครั้งแรกจะเป็นกลุ่มเล็ก ๆ โดยมดรุ่นแรกจะเป็นมดงาน แม่รังจะทำหน้าที่หาอาหารมาเลี้ยงดูตัวอ่อนชุดแรกเองโดยการให้กินไข่ที่ไม่ได้รับการผสมพันธุ์ จนมดรุ่นแรก ๆ นี้เจริญเติบโตเป็นมดงานทำหน้าที่ออกหาอาหาร เมื่อมีมดงานตัวเต็มวัยมากขึ้น ราชินี่จะทำหน้าที่วางไข่ และควบคุมพฤติกรรมภายในรังเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ฤดูกาลและสภาพอากาศ ซึ่งได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้น มีอิทธิพลต่อการผสมพันธุ์ และเมื่อภายในรังมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น ราชินีจะมีการผลิตมดเพศผู้และเพศเมียทำหน้าที่ผสมในรุ่นต่อไป
1.3.2 พฤติกรรมการหาอาหาร มดออกหาอาหารได้ทั้งกลางวันและกลางคืนและกินอาหารได้หลากหลาย สามารถเป็นได้ทั้งตัวห้ำ (predator) หรือเป็นพวกกินซาก (scavenger) และจะกินได้ทั้งเมล็ดพืชหรือดูดกินอาหารที่เป็นของเหลว มดงานบางชนิดสามารถเก็บอาหารที่เป็นของเหลวไว้ในกระเพาะจนเต็ม แล้วนำกลับไปแจกจ่ายให้กับสมาชิกตัวอื่นในรังได้ โดยใช้วีสำรอกออกมาในเวลาไม่เกิน 20 ชั่วโมง
1.3.3 พฤติกรรมการติดต่อสื่อสาร มดมีการติดต่อสื่อสารโดยปล่อยสารที่เรียกว่า ฟีโรโมน (pheromone) ที่มดตัวอื่นจะรับการติดต่อได้โดยอาศัยหนวดและขาคู่หน้า ฟีโรโมน มีหลายชนิด เช่น
1.3.3.1 ฟีโรโมนนำทาง (trail pheromone) โดยมดจะปล่อยไว้ตามทางที่มันเดินผ่านไปเพื่อให้สมาชิกตามไปยังแหล่งอาหารได้ถูกต้องและเมื่อพบอาหารมาก ๆ มดจะช่วยกันปล่อยฟีโรโมนทำให้มีมดเป็นจำนวนมากกรูมาที่อาหารอย่างรวดเร็ว
1.3.3.2 ฟีโรโมนเตือนภัย (Alarm pheromone) พบว่าเมื่อปล่อยออกมาเป็นจำนวนน้อย ๆ จะใช้สื่อสารด้านการเตือนภัย แต่ถ้าปล่อยออกมาในปริมาณมาก ๆ จะสามารถควบคุมพฤติกรรมบางอย่างได้ด้วย เช่น ให้เข้าโจมตีศัตรู ขุดรู และสารนี้จะไม่จำเพาะเจาะจงกับชนิดของมดเหมือนกับฟีโรโมนนำทาง
1.3.3.3 ฟีโรโมนอื่น ๆ มดจะปล่อยออกมาในเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น มดตัวอ่อนสามารถปล่อยฟีโรโมนกระตุ้นให้มดงานป้อนอาหารให้เมื่อมันรู้สึกหิว หรือฟีโรโมนที่แม่รังปล่อยออกมาเพื่อควบคุมประชากรภายในรัง
1.3.4 พฤติกรรมการใช้เสียง มีรายงานว่ามดสามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยใช้เสียงเพื่อเป็นการเตือนภัย เรียกสมาชิกให้มาอยู่รวมกันเมื่อพบศัตรู หรือเรียกเพื่อน ๆ มาช่วยเมื่อมีอันตราย
1.1 วงจรชีวิต
มดเป็นแมลงที่มีการเจริญเติบโตแบบสมบูรณ์ (complete metamorphosis) ในวงจรชีวิตประกอบด้วยไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย1.2 ลักษณะที่สำคัญ
มดมีลักษณะเหมือนกับแมลงกลุ่มอื่น ๆ คือสามารถแบ่งลำตัวออกได้เป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง แต่ละส่วนจะมีอวัยวะหรือลักษณะที่สำคัญต่าง ๆ ปรากฎอยู่ลักษณะเหล่านี้จะแตกต่างกันไปในมดแต่ละกลุ่ม ลักษณะของมดแตกต่งจากแมลงชนิดอื่น คือ จะมีหนวดหักแบบข้อศอก (geniculate) แบ่งออกเป็นส่วน scape และ funicle ในเพศเมียจำนวนปล้องหนวดจะมี 4-12 ปล้อง ส่วนเพศผู้มี 9 ปล้อง ปากเป็นแบบกัดกิน มีฟันเรียกว่า mandible ท้องปล้องที่ 1 จะรวมกับอกปล้องที่ 3 เรียกว่า propodeum ท้องปล้องที่ 2 หรือ 3 มีลักษณะเป็นก้านเรียกว่า abdomen pedicel ซึ่งอาจจะมีปุ่มหรือไม่มีก็ได้ ส่วนท้องปล้องที่เหลือรวมเรียกว่า gaster มดเพศเมียบางชนิดจะมีเหล็กในยื่นออกมาให้เห็นจากปลายของส่วนท้อง มดจะมีตารวมขนากใหญ่ 1 คู่ (compound eye) บางชนิดมีตาเดี่ยว (ocelli) โดยทั่วไปจะมี 3 ตาอยู่เหนือระหว่างตารวม ตาเดี่ยวจะไม่ได้ทำหน้าที่ในการรับภาพ
เนื่องจากมดเป็นแมลงสังคม สมาชิกที่อยู่ในรังจะมีการแบ่งชั้นวรรณะแยกออกให้เห็นชัดเจน ประกอบด้วย
1.2.1 มดแม่รัง ลักษณะทั่วไป คือ มีขนาดใหญ่กว่ามดตัวอื่น ๆ ที่อยู่ในรัง มีปีกอกหนา ท้องใหญ่ และมักมีตาเดี่ยว สามารถสืบพันธุ์ได้ ทำหน้าที่ในการวางไข่และสร้างรัง
1.2.2 มดเพศผู้ โดยทั่วไปจะมีปีก ส่วนอกหนาแต่ไม่เท่าของมดแม่รัง มีหน้าที่ผสมพันธุ์ จะพบเป็นจำนวนน้อยกว่ามดงานในแต่ละรัง
1.2.3 มดงาน เป็นมดเพศเมียที่เป็นหมัน ไม่มีปีก ไม่มีตาเดี่ยว เป็นมดที่ออกหาอาหาร จะพบอยู่เสมอภายนอกรัง นอกจากหาอาหารแล้วมดงานยังมีหน้าที่ในการสร้างรัง รักษารัง ดูแลตัวอ่อนและราชินีและป้องกันรังด้วย มดงานบางชนิดสามารถแบ่งออกเป็น มดงานที่มีรูปร่างแบบเดียว (monomorphic form) มดงานที่มีรูปร่าง 2 รูปแบบ (dimorphic form : major worker; minor worker) และมดงานที่มีรูปร่างหลายแบบ (polymorphic form)
1.3 พฤติกรรม
มดเป็นแมลงที่มีวิวัฒนาการสูง กำเนิดมาช้านาน เมื่อศึกษาจาก fossil นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามดมีกำเนิดเมื่อ 50 ล้านปีมาแล้ว มดมีมากมายหลายชนิดแพร่กระจายอยู่ทั่วไปในเขตต่าง ๆ ยกเว้นแถบขั้วโลก มดมีพฤติกรรมที่น่าสนใจหลาย ๆ ด้าน ได้แก่
1.3.1 พฤติกรรมการผสมพันธุ์และสร้างรัง เมื่อมีประชากรภายในรังหนาแน่นมากและต้องการขยายรัง สมาชิกในรังที่จะทำหน้าที่ผสมพันธุ์จะบินออกมาจากรังเดิมจับคู่กับมดจากรังอื่น โดยมดงานจะขุดรูให้เป็นทางออกของแม่รังตัวใหม่ มดที่มีวิวัฒนาการสูงจะจับคู่และผสมพันธุ์บนที่สูง เช่น บนต้นไม้ ส่วนมดที่มีวิวัฒนาการต่ำจะผสมพันธุ์บนพื้นดิน หลังจากนั้นราชินีจะหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการสร้างรังซึ่งจะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ชนิดของมดแล้วเริ่มต้นสร้างรังใหม่ เมื่อพบพื้นที่ที่เหมาะสมแล้วราชินีจะสลัดปีกออกและวางไข่ การวางไข่ครั้งแรกจะเป็นกลุ่มเล็ก ๆ โดยมดรุ่นแรกจะเป็นมดงาน แม่รังจะทำหน้าที่หาอาหารมาเลี้ยงดูตัวอ่อนชุดแรกเองโดยการให้กินไข่ที่ไม่ได้รับการผสมพันธุ์ จนมดรุ่นแรก ๆ นี้เจริญเติบโตเป็นมดงานทำหน้าที่ออกหาอาหาร เมื่อมีมดงานตัวเต็มวัยมากขึ้น ราชินี่จะทำหน้าที่วางไข่ และควบคุมพฤติกรรมภายในรังเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ฤดูกาลและสภาพอากาศ ซึ่งได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้น มีอิทธิพลต่อการผสมพันธุ์ และเมื่อภายในรังมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น ราชินีจะมีการผลิตมดเพศผู้และเพศเมียทำหน้าที่ผสมในรุ่นต่อไป
1.3.2 พฤติกรรมการหาอาหาร มดออกหาอาหารได้ทั้งกลางวันและกลางคืนและกินอาหารได้หลากหลาย สามารถเป็นได้ทั้งตัวห้ำ (predator) หรือเป็นพวกกินซาก (scavenger) และจะกินได้ทั้งเมล็ดพืชหรือดูดกินอาหารที่เป็นของเหลว มดงานบางชนิดสามารถเก็บอาหารที่เป็นของเหลวไว้ในกระเพาะจนเต็ม แล้วนำกลับไปแจกจ่ายให้กับสมาชิกตัวอื่นในรังได้ โดยใช้วีสำรอกออกมาในเวลาไม่เกิน 20 ชั่วโมง
1.3.3 พฤติกรรมการติดต่อสื่อสาร มดมีการติดต่อสื่อสารโดยปล่อยสารที่เรียกว่า ฟีโรโมน (pheromone) ที่มดตัวอื่นจะรับการติดต่อได้โดยอาศัยหนวดและขาคู่หน้า ฟีโรโมน มีหลายชนิด เช่น
1.3.3.1 ฟีโรโมนนำทาง (trail pheromone) โดยมดจะปล่อยไว้ตามทางที่มันเดินผ่านไปเพื่อให้สมาชิกตามไปยังแหล่งอาหารได้ถูกต้องและเมื่อพบอาหารมาก ๆ มดจะช่วยกันปล่อยฟีโรโมนทำให้มีมดเป็นจำนวนมากกรูมาที่อาหารอย่างรวดเร็ว
1.3.3.2 ฟีโรโมนเตือนภัย (Alarm pheromone) พบว่าเมื่อปล่อยออกมาเป็นจำนวนน้อย ๆ จะใช้สื่อสารด้านการเตือนภัย แต่ถ้าปล่อยออกมาในปริมาณมาก ๆ จะสามารถควบคุมพฤติกรรมบางอย่างได้ด้วย เช่น ให้เข้าโจมตีศัตรู ขุดรู และสารนี้จะไม่จำเพาะเจาะจงกับชนิดของมดเหมือนกับฟีโรโมนนำทาง
1.3.3.3 ฟีโรโมนอื่น ๆ มดจะปล่อยออกมาในเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น มดตัวอ่อนสามารถปล่อยฟีโรโมนกระตุ้นให้มดงานป้อนอาหารให้เมื่อมันรู้สึกหิว หรือฟีโรโมนที่แม่รังปล่อยออกมาเพื่อควบคุมประชากรภายในรัง
1.3.4 พฤติกรรมการใช้เสียง มีรายงานว่ามดสามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยใช้เสียงเพื่อเป็นการเตือนภัย เรียกสมาชิกให้มาอยู่รวมกันเมื่อพบศัตรู หรือเรียกเพื่อน ๆ มาช่วยเมื่อมีอันตราย